กราบขอพรท่านเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง (_/|\_)
นับเป็นบุญของพวกเราผู้เข้ารับการพัฒนาฯ นบก.ศธ. รุ่นที่ 6 ที่ท่านเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเมตตาให้เข้าไปกราบขอพร
.ท้าวความถึงประวัติความเป็นมาของสถาบันฯ แห่งนี้ ที่ตั้งเนื้อที่กว่า 40 ไร่ ท่านเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเมตตาให้ใช้ประโยชน์โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย จึงเกิดเป็นสถาบันพัฒนาฯ แห่งนี้ขึ้นตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา...
.
ผู้เขียนและพี่บัดดี้ นัดแนะตึ่นนอนแต่งตัวแต่เช้ามึด โดยตั้งใจจะเดินเท้าจากสถาบันฯ ไปยังวัดไร่ขิง แต่งชุดกีฬาทะมัดทะแมง แวะออกกำลังกายตรงสวนสุขภาพประมาณ 15 นาที แล้วก็เดินออกจากสถาบันฯ ตรงไปยังวัดไร่ขิง
พี่แดงเคยมาบ่อยจึงรู้เส้นทางเป็นอย่างดี เพื่อนผู้รับการพัฒนาฯ บางส่วนขับรถไป แวะชวนนั่งไปด้วย แต่พวกเรายืนยันว่าจะเดินไป (สตรองไปอิ๊ก 555+)
.
พอเดินเข้าไปในบริเวณวัด เห็นได้เลยว่าพื้นที่กว้างขวางใหญ่โตมาก บริเวณโดยรอบรายล้อมไปด้วยอาคารสถานที่และหน่วยงานต่าง ๆ ที่นามสกุล "วัดไร่ขิง" ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน โรงพยาบาล ฯลฯ
.
เนื่องจากเราไปถึงก่อนเวลาจึงเข้าไปกราบไหว้ขอพรพระพุุทธรูปในโบสถก่อน ด้านในโบสถงดงามมาก...จากนั้นจึงเดินไปยังศาลาสีขาวด้านข้างโบสถ ที่มีอาจารย์สถาบันฯ และเพื่อนๆบางส่วนรออยู่แล้ว
.
เมื่อถึงเวลาท่านเจ้าอาวาสก็ออกมา ให้พวกเราสมาทานศิล 5 จากนั้นท่านฯ ก็ให้เทศนาใช้เวลาเกือบ 1ชั่วโมง ท่านเทศนาพวกเราด้วยความเมตตา ใช้ภาษาง่ายๆ เป็นกันเอง และมีอารมณ์ขัน ท่านได้ให้สติในการทำงานว่าให้ครองความซื่อสัตย์สุจริต ไปอยู่ที่ไหนก็ให้มีการปรับตัว เมื่อมีโอกาสพัฒนาคนพัฒนางานก็จงทำให้เต็มความสามารถ
.
พวกเรารวบรวมปัจจัยจำนวนหนึ่งถวายเป็นทาน และท่านฯ ก็ให้พวกเราเข้าแถวเข้ารับมอบพระเครื่อง และถุงหนังสือธรรมมะ (ที่ท่านฯเรียกว่า 'ถุงยังชีพทางจิตวิญญาณ') ท่านฯ กำชับอีกว่า "อย่าลืมไปอ่านกันด้วยนะ"
.
เมื่อทุกคนรับของจากท่านเจ้าอาวาส เสร็จแล้ว ก็ถ่ายรูปหมู่ร่วมกับท่านทั้งคณะ เป็นที่ประทับใจ อิ่มอกอิ่มใจและอิ่มบุญกันถ้วนหน้า
.
พอเดินเข้าไปในบริเวณวัด เห็นได้เลยว่าพื้นที่กว้างขวางใหญ่โตมาก บริเวณโดยรอบรายล้อมไปด้วยอาคารสถานที่และหน่วยงานต่าง ๆ ที่นามสกุล "วัดไร่ขิง" ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน โรงพยาบาล ฯลฯ
.
เนื่องจากเราไปถึงก่อนเวลาจึงเข้าไปกราบไหว้ขอพรพระพุุทธรูปในโบสถก่อน ด้านในโบสถงดงามมาก...จากนั้นจึงเดินไปยังศาลาสีขาวด้านข้างโบสถ ที่มีอาจารย์สถาบันฯ และเพื่อนๆบางส่วนรออยู่แล้ว
.
เมื่อถึงเวลาท่านเจ้าอาวาสก็ออกมา ให้พวกเราสมาทานศิล 5 จากนั้นท่านฯ ก็ให้เทศนาใช้เวลาเกือบ 1ชั่วโมง ท่านเทศนาพวกเราด้วยความเมตตา ใช้ภาษาง่ายๆ เป็นกันเอง และมีอารมณ์ขัน ท่านได้ให้สติในการทำงานว่าให้ครองความซื่อสัตย์สุจริต ไปอยู่ที่ไหนก็ให้มีการปรับตัว เมื่อมีโอกาสพัฒนาคนพัฒนางานก็จงทำให้เต็มความสามารถ
.
พวกเรารวบรวมปัจจัยจำนวนหนึ่งถวายเป็นทาน และท่านฯ ก็ให้พวกเราเข้าแถวเข้ารับมอบพระเครื่อง และถุงหนังสือธรรมมะ (ที่ท่านฯเรียกว่า 'ถุงยังชีพทางจิตวิญญาณ') ท่านฯ กำชับอีกว่า "อย่าลืมไปอ่านกันด้วยนะ"
.
เมื่อทุกคนรับของจากท่านเจ้าอาวาส เสร็จแล้ว ก็ถ่ายรูปหมู่ร่วมกับท่านทั้งคณะ เป็นที่ประทับใจ อิ่มอกอิ่มใจและอิ่มบุญกันถ้วนหน้า
.
//ผู้เขียนบันทึกบล็อกนี้เป็นบันทึกเตือนความจำ เพื่อประโยชน์ในการศึกษา ผิดพลาดประการใด หรือบางเนื้อหาบางส่วนไปพาดพิงใคร ต้องขออภัยด้วยนะคะ (น้อมรับทุกความคิดเห็นค่ะ) 🙏🙏🙏








Comments
Post a Comment